เมนู

พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [2. สังฆาทิเสสกัณฑ์] 5. สัญจริตตสิกขาบท วินีตวัตถุ

เรื่องไม่ใช่หญิง 1 เรื่อง

สมัยนั้น ชายคนหนึ่งสั่งภิกษุรูปหนึ่งว่า “พระคุณเจ้า ท่านช่วยไปบอกหญิง
ชื่อนี้” ภิกษุนั้นไปถามพวกชาวบ้านว่า “หญิงคนชื่อนี้ อยู่ไหน” พวกเขาตอบว่า “ไม่
ใช่ผู้หญิง เจ้าข้า” ท่านเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสหรือหนอ จึง
นำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอไม่
ต้องอาบัติสังฆาทิเสส แต่ต้องอาบัติทุกกฏ” (เรื่องที่ 4)

เรื่องหญิงบัณเฑาะก์ 1 เรื่อง

สมัยนั้น ชายคนหนึ่งสั่งภิกษุรูปหนึ่งว่า “พระคุณเจ้า ท่านช่วยไปบอกหญิง
ชื่อนี้” ภิกษุนั้นไปถามพวกชาวบ้านว่า “หญิงคนชื่อนี้ อยู่ไหน” พวกเขาตอบว่า
“เป็นหญิงบัณเฑาะก์ เจ้าข้า” ท่านเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสส
หรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า
“ภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส แต่ต้องอาบัติทุกกฏ” (เรื่องที่ 5 )

เรื่องชักจูงสามีภรรยาผู้ทะเลาะให้คืนดีกัน 1 เรื่อง

สมัยนั้น หญิงคนหนึ่งทะเลาะกับสามีเดินไปบ้านมารดา ภิกษุที่ใกล้ชิดตระกูล
พูดชักจูงให้กลับคืนดีกัน แล้วท่านเกิดความกังวลใจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสหรือ
หนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้ทรงทราบ พระองค์ตรัสถามว่า
“ภิกษุ เขาหย่ากันหรือ” “ยังไม่หย่ากัน พระพุทธเจ้าข้า” “ภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติ
เพราะเขายังไม่หย่ากัน” (เรื่องที่ 6)

เรื่องการชักสื่อบัณเฑาะก์ 1 เรื่อง

สมัยนั้น ภิกษุรูปหนึ่งทำหน้าที่ชักสื่อให้พวกบัณเฑาะก์ ท่านเกิดความกังวล
ใจว่า เราต้องอาบัติสังฆาทิเสสหรือหนอ จึงนำเรื่องนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาคให้
ทรงทราบ พระองค์ตรัสว่า “ภิกษุ เธอไม่ต้องอาบัติสังฆาทิเสส แต่ต้องอาบัติ
ถุลลัจจัย” (เรื่องที่ 7)

สัญจริตตสิกขาบทที่ 5 จบ


พระวินัยปิฎก มหาวิภังค์ [2. สังฆาทิเสสกัณฑ์] 6. กุฏิการสิกขาบท นิทานวัตถุ

6. กุฏิการสิกขาบท
ว่าด้วยการก่อสร้างกุฎี
เรื่องภิกษุชาวเมืองอาฬวี

[342] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ พระเวฬุวัน สถาน
ที่ให้เหยื่อกระแต เขตกรุงราชคฤห์ ครั้งนั้น พวกภิกษุชาวเมืองอาฬวีสร้างกุฎีด้วย
เครื่องอุปกรณ์ที่ขอมาเอง ไม่มีเจ้าของสร้างให้ สร้างเป็นของส่วนตัว ไม่จำกัดขนาด
กุฎีสร้างไม่เสร็จ พวกท่านก็เป็นผู้มากไปด้วยการขอ มากไปด้วยการออกปากขอ
ด้วยกล่าวว่า “ท่านทั้งหลายจงให้คนงาน อุปกรณ์ก่อสร้างสำเร็จรูป โค เกวียน มีด
ขวาน ผึ่ง จอบ สิ่ว เถาวัลย์ ไม้ไผ่ หญ้ามุงกระต่าย หญ้าแฝก หญ้าสามัญ ดินเหนียว”
พวกชาวบ้านถูกรบกวนด้วยการขอ ด้วยการออกปากขอ พบเห็นภิกษุทั้ง
หลายต่างพากันหวาดสะดุ้งบ้าง หลบหนีไปที่อื่นบ้าง เดินเลี่ยงไปทางอื่นบ้าง เมิน
หน้าหนีบ้าง ปิดประตูบ้านบ้าง พบเห็นแม่โคเข้าก็วิ่งหนีเพราะเข้าใจว่าเป็นภิกษุบ้าง
ครั้งนั้น ท่านพระมหากัสสปะจำพรรษาในเขตกรุงราชคฤห์ ออกเดินทางไป
ทางเมืองอาฬวี จาริกไปโดยลำดับ จนถึงเมืองอาฬวี ข่าวว่าท่านพระมหากัสสปะพัก
อยู่ ณ อัคคาฬวเจดีย์ เขตเมืองอาฬวีนั้น ครั้นเวลาเช้า ท่านครองอันตรวาสก ถือ
บาตรและจีวรไปบิณฑบาตในเมืองอาฬวี พวกชาวบ้านพอเห็นท่านต่างหวาดสะดุ้งบ้าง
หลบหนีไปที่อื่นบ้าง เดินเลี่ยงไปทางอื่นบ้าง เมินหน้าหนีบ้าง ปิดประตูบ้านบ้าง
ครั้นท่านพระมหากัสสปะบิณฑบาตในเมืองอาฬวี กลับจากบิณฑบาตหลังจากฉันอาหาร
เรียกภิกษุทั้งหลายมาถามว่า “ท่านทั้งหลาย เมื่อก่อนเมืองอาฬวีมีอาหารบริบูรณ์
หาอาหารได้ง่าย ภิกษุสงฆ์บิณฑบาตหาเลี้ยงชีพได้ง่าย แต่บัดนี้ เมืองอาฬวีกลับมี
ข้าวยากหมากแพง อาหารหาได้ยาก ยากที่พระอริยะจะบิณฑบาตยังชีพได้ อะไรเป็นเหตุ
เป็นปัจจัยให้เมืองอาฬวีนี้มีข้าวยากหมากแพง หาอาหารได้ยาก ยากที่พระอริยะ
จะบิณฑบาตยังชีพได้” ภิกษุเหล่านั้นจึงกราบเรียนเรื่องนั้นให้ท่านทราบ
[343] ครั้งนั้น ครั้นพระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กรุงราชคฤห์ ตามพระ
พุทธาภิรมย์แล้วได้เสด็จไปทางเมืองอาฬวี เสด็จจาริกไปโดยลำดับ จนถึงเมืองอาฬวี
ข่าวว่าพระผู้มีพระภาคพุทธเจ้าประทับอยู่ ณ อัคคาฬวเจดีย์ เขตเมืองอาฬวีนั้น

{ที่มา : โปรแกรมพระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เล่ม : 1 หน้า :378 }